ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

ตรวจมะเร็งปากมดลูก เป็นหนึ่งในการตรวจสุขภาพที่สำคัญสำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เพราะจะช่วยตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นชนิดของมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในผู้หญิงไทย ช่วยให้เราสามารถรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
ถึงแม้จะดูเป็นโรคที่น่ากลัว แต่มะเร็งปากมดลูกไม่ได้ถ่ายทอดผ่านกรรมพันธุ์ และเป็นหนึ่งในโรคมะเร็งไม่กี่ชนิดที่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน HPV ค่ะ

โรคมะเร็งปากมดลูก คืออะไร?
โรคมะเร็งปากมดลูก คือ โรคมะเร็งที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแปปิโลมาไวรัส (Human papillomavirus) สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง 14 สายพันธ์ุ ได้แก่ 16, 18, 31, 33, 35, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 66 และ 68 ซึ่งจะได้รับจากการมีเพศสัมพันธ์
แล้วทำให้บริเวณนั้น ๆ เกิดรอยถลอก หรือบาดแผลเล็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็น เยื่อบุผิวปากมดลูก เยื่อบุผิวช่องคลอด หรือปากช่องคลอด ทำให้ติดเชื้อ และส่งผลให้เซลล์บริเวณปากมดลูกเกิดความผิดปกติ และกลายเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด
         
การตรวจมะเร็งปากมดลูกมีกี่วิธี?
วิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูกที่นิยม จะมีอยู่ 4 วิธีหลักๆ ดังนี้
 
  1.  ตรวจแปบเสมียร์ (Pep Smear) การตรวจแปบเสมียร์* เป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแบบดั้งเดิม โดยคุณหมอจะใช้เครื่องสอดและถ่างบริเวณปากช่องคลอดแล้วใช้แปรงเล็กๆ ป้ายเซลล์จากบริเวณมดลูกส่งตรวจทางห้องการปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาเซลล์ที่ผิดปกติ หรือเซลล์ที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นโรคมะเร็งได้
     
  2. ตรวจลิควิดเบส (Liquid based) หรือ ตินแพร็พ แป๊บ เทสต์ (ThinPrep Pap Test) การตรวจลิควิดเบสเป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกรูปแบบใหม่ โดยจะใช้แปรงเก็บตัวอย่างเซลล์ไว้ในน้ำยาเพื่อรักษาเซลล์
    มีข้อดีกว่าการตรวจแปบเสมียร์ ดังนี้
  • เก็บตัวอย่างเซลล์ได้มากกว่า ช่วยลดปัญหาเก็บตัวอย่างไม่พอ
  • สามารถนำตัวอย่างเซลล์ไปตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ได้โดยที่ไม่ต้องเก็บตัวอย่างซ้ำ
  • สามารถกำจัดสิ่งปนเปื้อนในตัวอย่างเซลล์ เช่น มูก หรือเลือด ช่วยลดสิ่งบดบัง และทำให้ตรวจได้แม่นยำมากขึ้น โดยจะให้ผลที่แม่นยำสูงถึง 70-85%
     
การตรวจลิควิดเบสนั้น จะแนะนำให้ตรวจทุก ๆ 1-2ปี โดยปกติแล้ว จะสามารถตรวจได้ตั้งแต่ตอนอายุ 30ปีขึ้นไป แต่ในบางรายอาจเริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 25ปีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับการประเมินของคุณหมอ
 
       3. ตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวีจากดีเอ็นเอ (HPV DNA Test) เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวีโดยตรงด้วยเทคนิคด้านชีวโมเลกุล จะมีวิธีการเหมือนกับตรวจลิควิดเบส แต่จะเก็บตัวอย่างเซลล์ในน้ำยาสำหรับ HPV DNA Test โดยเฉพาะ แล้วทำการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
 
ข้อดีของการตรวจ HPV DNA Test จะสามารถตรวจหาเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็งปากมดลูก ได้แก่ 16, 18, 31, 33, 35, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 66 และ 68 ซึ่งจะมีความไวในการตรวจหารอยโรคก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูกได้เร็วกว่าวิธีอื่น ๆ
   
การตรวจ HPV DNA Test นั้น แนะนำให้ตรวจทุก 3-5 ปี โดยปกติแล้ว จะสามารถตรวจได้ตั้งแต่ตอนอายุ 30ปีขึ้นไป แต่ในบางรายอาจเริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับการประเมินของคุณหมอ
 
         4. ตรวจแบบคู่ (Co-Testing) เป็นการนำวิธีตรวจลิควิดเบส และ HPV DNA Test มาร่วมกัน ทำให้มีความแม่นยำสูงสุด มีความไวในการตรวจเจอรอยโรคก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูกได้สูงถึง 99% และดูได้ลึกถึงเชื้อก่อโรคว่า เป็นเชื้อไวรัสเอชพีวีสายพันธุ์อะไร
   
โดยการตรวจแบบคู่จะแนะนำให้ตรวจทุก 3-5 ปี และสามารถตรวจได้ตั้งแต่ตอนอายุ 30 ปีขึ้นไปเช่นกันค่ะ
 
สำหรับสาวๆ ท่านไหน ที่ต้องการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ติดต่อนัดหมายทางโทรศัพท์ 092-969 5987 (ตามเวลาทำการคลินิก) หรือทางเพจเฟสบุ๊ค ฝากครรภ์รังสิต "ฤดีวัลย์คลินิกเฉพาะทางสูตินรีเวช"

   

Description

โรคมะเร็งปากมดลูก คืออะไร?
โรคมะเร็งปากมดลูก คือ โรคมะเร็งที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแปปิโลมาไวรัส (Human papillomavirus) สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง 14 สายพันธ์ุ ได้แก่ 16, 18, 31, 33, 35, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 66 และ 68 ซึ่งจะได้รับจากการมีเพศสัมพันธ์
แล้วทำให้บริเวณนั้น ๆ เกิดรอยถลอก หรือบาดแผลเล็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็น เยื่อบุผิวปากมดลูก เยื่อบุผิวช่องคลอด หรือปากช่องคลอด ทำให้ติดเชื้อ และส่งผลให้เซลล์บริเวณปากมดลูกเกิดความผิดปกติ และกลายเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด

 

 

 

 

 

การตรวจมะเร็งปากมดลูกมีกี่วิธี?
วิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูกที่นิยม จะมีอยู่ 4 วิธีหลักๆ ดังนี้

 

  1.  ตรวจแปบเสมียร์ (Pep Smear) การตรวจแปบเสมียร์* เป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแบบดั้งเดิม โดยคุณหมอจะใช้เครื่องสอดและถ่างบริเวณปากช่องคลอดแล้วใช้แปรงเล็กๆ ป้ายเซลล์จากบริเวณมดลูกส่งตรวจทางห้องการปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาเซลล์ที่ผิดปกติ หรือเซลล์ที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นโรคมะเร็งได้

     

  2. ตรวจลิควิดเบส (Liquid based) หรือ ตินแพร็พ แป๊บ เทสต์ (ThinPrep Pap Test) การตรวจลิควิดเบสเป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกรูปแบบใหม่ โดยจะใช้แปรงเก็บตัวอย่างเซลล์ไว้ในน้ำยาเพื่อรักษาเซลล์
    มีข้อดีกว่าการตรวจแปบเสมียร์ ดังนี้
  • เก็บตัวอย่างเซลล์ได้มากกว่า ช่วยลดปัญหาเก็บตัวอย่างไม่พอ
  • สามารถนำตัวอย่างเซลล์ไปตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ได้โดยที่ไม่ต้องเก็บตัวอย่างซ้ำ
  • สามารถกำจัดสิ่งปนเปื้อนในตัวอย่างเซลล์ เช่น มูก หรือเลือด ช่วยลดสิ่งบดบัง และทำให้ตรวจได้แม่นยำมากขึ้น โดยจะให้ผลที่แม่นยำสูงถึง 70-85%

     

การตรวจลิควิดเบสนั้น จะแนะนำให้ตรวจทุก ๆ 1-2ปี โดยปกติแล้ว จะสามารถตรวจได้ตั้งแต่ตอนอายุ 30ปีขึ้นไป แต่ในบางรายอาจเริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 25ปีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับการประเมินของคุณหมอ

 

       3. ตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวีจากดีเอ็นเอ (HPV DNA Test) เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวีโดยตรงด้วยเทคนิคด้านชีวโมเลกุล จะมีวิธีการเหมือนกับตรวจลิควิดเบส แต่จะเก็บตัวอย่างเซลล์ในน้ำยาสำหรับ HPV DNA Test โดยเฉพาะ แล้วทำการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ

 

ข้อดีของการตรวจ HPV DNA Test จะสามารถตรวจหาเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็งปากมดลูก ได้แก่ 16, 18, 31, 33, 35, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 66 และ 68 ซึ่งจะมีความไวในการตรวจหารอยโรคก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูกได้เร็วกว่าวิธีอื่น ๆ

 

 

การตรวจ HPV DNA Test นั้น แนะนำให้ตรวจทุก 3-5 ปี โดยปกติแล้ว จะสามารถตรวจได้ตั้งแต่ตอนอายุ 30ปีขึ้นไป แต่ในบางรายอาจเริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับการประเมินของคุณหมอ

 

         4. ตรวจแบบคู่ (Co-Testing) เป็นการนำวิธีตรวจลิควิดเบส และ HPV DNA Test มาร่วมกัน ทำให้มีความแม่นยำสูงสุด มีความไวในการตรวจเจอรอยโรคก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูกได้สูงถึง 99% และดูได้ลึกถึงเชื้อก่อโรคว่า เป็นเชื้อไวรัสเอชพีวีสายพันธุ์อะไร

 

 

โดยการตรวจแบบคู่จะแนะนำให้ตรวจทุก 3-5 ปี และสามารถตรวจได้ตั้งแต่ตอนอายุ 30 ปีขึ้นไปเช่นกันค่ะ

 

สำหรับสาวๆ ท่านไหน ที่ต้องการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ติดต่อนัดหมายทางโทรศัพท์ 092-969 5987 (ตามเวลาทำการคลินิก) หรือทางเพจเฟสบุ๊ค ฝากครรภ์รังสิต “ฤดีวัลย์คลินิกเฉพาะทางสูตินรีเวช”

 

 

สินค้าอื่นๆ

  • All
  • คลินิกฝากครรภ์สำหรับคุณแม่
  • คลินิกสูตินรีเวชสำหรับผู้หญิง
  • บริการโรคทั่วไป

ติดต่อคลินิก

ฤดีวัลย์คลินิกเฉพาะทางสูตินรีเวช
236 ถนนเลียบคลองรังสิต ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี (คลินิกอยู่ฝั่งตรงข้ามทางลงสะพานแดง รังสิต-คลอง1)

 เวลาเปิดทำการ
วันจันทร์ – วันศุกร์ 17.00-20.00

วันอาทิตย์ 13.00-19.00

หยุดทุกวันเสาร์

ใครที่มีคำถาม หรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อนัดหมายมาใช้บริการที่คลินิก ได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 092-969 5987 (ตามเวลาทำการคลินิก) หรือทางแชทเพจ ฝากครรภ์รังสิต “ฤดีวัลย์คลินิกเฉพาะทางสูตินรีเวช”  คุณหมอและเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลค่ะ

มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวสุขภาพดีที่ “ฤดีวัลย์ คลินิกเฉพาะทางสูตินรีเวช วันนี้ !

Phone
Messenger
Messenger
Phone