Description
อาการที่บ่งบอกว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ หรือที่เรียกว่า “อาการแพ้ท้อง”
-
ประจำเดือนไม่มาตามปกติ
-
มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีอาการไวต่อกลิ่นต่างๆ โดยเฉพาะกลิ่นอาหาร
-
ปัสสาวะบ่อยๆ
-
อารมณ์แปรปรวณง่าย
-
เหนื่อยง่าย รู้สึกอ่อนเพลีย อยากนอนมากกว่าปกติ
-
ท้องอืด ท้องเฟ้อ
-
คัดตึงเต้านม
วิธีตรวจการตั้งครรภ์ หาฮอร์โมนเอชซีจี(HCG) ทำได้กี่วิธี?
หลักการตรวจการตั้งครรภ์จะตรวจจากการหาค่าฮอร์โมน Human Chorionic Gonadotropin หรือที่เรียกสั้นว่า ๆ ฮอร์โมนเอชซีจี (hCG) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกิดจากตัวรกหลังจากที่ปฏิสนธิ 6 วันขึ้นไป โดยระดับปริมาณฮอร์โมนเอชซีจีสามารถบอกการตั้งครรภ์และอายุครรภ์คร่าว ๆ ได้ โดยสามารถตรวจได้ 2 วิธีดังนี้
1.ตรวจปัสสาวะด้วยที่ตรวจครรภ์
เป็นอุปกรณ์ตรวจครรภ์ด้วยตนเองที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา หรือร้านค้าทั่วไป โดยจะตรวจหาค่าฮอร์โมนเอชซีจีจากการตรวจปัสสาวะ ซึ่งมีให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ปัสสาวะปล่อยผ่าน แบบหยด แบบตลับ และแบบจุ่ม โดยจะแสดงผลอยู่ 3 แบบ ได้แก่
-
ขึ้น 2 ขีด ที่ C และ T เป็นผลบวก หมายถึง มีโอกาสตั้งครรภ์
-
ขึ้นขีดเดียวที่ C เป็นผลลบ หมายถึง ไม่ตั้งครรภ์
-
ไม่มีขีดขึ้น หมายถึง ที่ตรวจครรภ์เสีย หมดอายุ หรือเกิดข้อผิดพลาดในขั้นตอนเก็บปัสสาวะ
ทั้งนี้การใช้ที่ตรวจครรภ์เป็นการตรวจตั้งครรภ์เบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีผลลบลวง หรือผลบวกลวงได้ แนะนำให้ไปพบคุณหมอเพื่อตรวจยืนยันความแม่นยำอีกทีค่ะ
2. ตรวจเลือดที่คลินิก หรือโรงพยาบาล
การตรวจเลือดหาค่าฮอร์โมนเอชซีจีจะมีความแม่นยำ 100% เป็นวิธีที่คุณหมอมักใช้ในการตรวจยืนยันการตั้งครรภ์ โดยจะเจาะเลือดของคุณแม่ส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ และจะทราบผลในวันถัดไป คุณแม่สามารถมาตรวจที่คลินิกได้เลย สะดวกและรวดเร็วกว่าไปโรงพยาบาล
แล้วตรวจแบบอัลตราซาวด์ สามารถใช้ตรวจการตั้งครรภ์ได้ไหม?
การตรวจอัลตราซาวด์สามารถใช้ตรวจการตั้งครรภ์ได้ โดยจะสามารถตรวจได้หลังจากที่มีอายุครรภ์ 5 สัปดาห์ขึ้นไป โดยจะมีเป้าหมายในการตรวจหาตำแหน่งถุงการตั้งครรภ์ว่า อยู่ในมดลูก หรืออยู่นอกมดลูก ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยของการตั้งครรภ์อย่างมาก
ตรวจการตั้งครรภ์ที่ฤดีวัลย์คลินิก มีข้อดีอย่างไร?
-
มีบริการตรวจการตั้งครรภ์ทุกวิธี
-
ได้รับการดูแลและรักษาอย่างใกล้ชิดกับคุณหมอเฉพาะทาง
-
มีบริการฝากครรภ์ดูแลอย่างต่อเนื่อง
-
ค่าบริการฝากครรภ์เบิกประกันสังคมได้สูงสุด 1,500 บาท
-
สะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องรอคิวนาน
ภาวะเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ตั้งครรภ์?
การมาฝากครรภ์กับคุณหมออย่างต่อเนื่อง จำเป็นอย่างยิ่งเพราะในระหว่างที่คุณแม่ตั้งครรภ์ อาจเกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้ ดังนั้นการที่คุณแม่ได้รับการดูแลโดยคุณหมอสูตินรีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฝากครรภ์ ก็จะช่วยลดการเกิดความเสี่ยงเหล่านี้ได้มาก และสามารถวางแผนรับมือได้อย่างเหมาะสม ภาวะเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ มี 2 ภาวะดังนี้
-
ท้องลม (Blighted Ovum) : เป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่มีตัวอ่อน หรือตัวอ่อนสลายไปแล้วตั้งแต่ระยะแรกของการตั้งครรภ์ เมื่อทำการอัลตราซาวด์จึงพบว่ามีเพียงถุงตั้งครรภ์ แต่ไม่พบตัวอ่อน เป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้กับสาว ๆ ทุกคน ไม่สามารถป้องกันได้ และจะยิ่งพบมากขึ้นในสาว ๆ ที่มีอายุมาก
-
ท้องนอกมดลูก : เป็นภาวะการตั้งครรภ์ที่อยู่บริเวณอื่นนอกโพรงมดลูก โดยส่วนใหญ่จะพบว่าตัวอ่อนไปฝังตัวอยู่บริเวณท่อนำไข่ แต่ก็สามารถพบการฝังตัวอ่อนที่บริเวณอื่น ๆ ได้เช่นกัน จัดเป็นภาวะผิดปกติที่เมื่อพบแล้วจะต้องยุติการตั้งครรภ์ทันที เพราะอาจเป็นอันตรายต่อตัวคุณแม่